กัณฑ์ที่ ๑๐ สักกบรรพ ๔๓ พระคาถา
พระมหาสิน ฐิตเมโธ
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหลักสี่ พระอารามหลวง
พระนิพนธ์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส
--------------------------
เอวนฺเตสุ อญฺญมญฺญ สมฺโมทนียํ กถํ กเถนฺเตสุ สกฺโก เทวราชา จินฺเตสิ อยํ เวสฺสนฺตรมหาราชา หิยฺโย ชูชกสฺส ปฐวึ อุนฺนาเทตฺวา ทารเก อทาสิ อิทานิ นํ โกจิ หีนปุริโส อุปสงฺกมิตฺวา สพฺพลกฺขณสมฺปนฺนํ สีลวตึ มทฺทึ ยาจิตฺวา ราชานํ เอกกํ กตฺวา มทฺทึ คเหตฺวา คจฺเฉยฺย ตโต เอส อนาโถ นิปฺปจฺจโย ภเวยฺย ยนฺนูนาหํ พฺราหฺณวณฺเณน นํ อุปสงฺกมิตฺวา มทฺทึ ยาจิตวา ปารมิกูฏํ คาหาเปตฺวา กสฺสจิ อวิสชฺชนียํ กตฺวา ปุนตํ ตสฺเสว ทตฺวา อาคมิสฺสามีติ
(1) ขึ้น เตสุ ขตฺติเยสุ ในเมื่อสองสุริยราชนรินทร์อสัมภินพงศ์พิสุทธกษัตริย์ ทรงพระโสมนัสในปิยบุตรทาน ต่างพระองค์ทรงสโมสรเกษมสานต์สนทนา ด้วยสัมโมทนียกถาทางทานบริจาค ยิ่งพูนเพิ่มพระปรีดาปราโมทย์มากในกมลหฤทัย เดิน สกฺโก เทวราชา ส่วนสมเด็จสหัสนัยน์อัครเทวราช ก็ทรงพระอนุสรณ์คำนึงถึงบรมบาทบรรพชิตเชษฐ์เพศยันดรดาบส ว่า ขึ้น หิยฺโย วานนี้พระองค์ทรงสละพระปิโยรสทั้งคู่แก่ชูชกพฤฒาจารย์ มหัศจรรย์ก็บันดาลดินฟ้าสาครกัมปนาท โกจิ หีนปุริโส แม้นว่ามีชายหินชาติผู้ใดผู้หนึ่ง จะสืบเสาะแสวงมาถึงพระอาศรมสำนัก เข้าทูลขอพระเลิศลักษณกัลยาณี มัทรีผู้ทรงศีลวัตรวรวิเศษ ท้าวเธอก็จะทรงบำเพ็ญพระทานบารเมศรมหาภริยาบริจาค เอกกํ กตฺวา จะกระทำให้เสวยพระทุกข์ลำบากอยู่เอกองค์ บำราศไร้ผู้รองบาทบงสุ์ที่จะปฏิบัติ ก็จะหม่นหมองในครองพรหมจริยวัตรหวังประโยชน์พระบรมโพธิญาณ ยนฺนูนาหํ ควรอาตมจักจรจากสถานสุทัศนเทวบุเรศ นิมิตเพศเป็นธชีชรา จะเข้าไปทูลขอพระเกศแก้วกัญญาเยาวลักษณวิลาส แล้วจะทูลถวายพระนุชนาฏให้คืนคง จะขอปฏิญาณไว้อย่าให้พระองค์ทรงประสาทสละ แก่ผู้ใดผู้หนึ่งซึ่งจะมาพานพะ ณ เถื่อนทาง จะซ้ำขอพระน้องนางสืบไปในภายหน้า แล้วจะถวายอัญชลีลานิวัตนาการ สู่สุราลัยพิมานนี้แล้วแล
ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห
ตโต รตฺยา วิวสเน ฯลฯ ภริยํ เม เทหิ ยาจิโตติ
(2) เดิน ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ผู้ทรงศีลวิสุทธิสังวร ตโต รตฺยา วิวสเน ปางเมื่อพระอาทิตย์อุทัยทิวากรกระจ่างจำรัส สกฺโก ส่วนสมเด็จวชิรหัตถเทเวศร์ ก็แปรเป็นทวิชาเชษฐ์เดินดง มีทั้งเครื่องบูชาพรตตามพราหมณ์พงศ์พิธีกูณฑ์ ดูเสงี่ยมเสี่ยมสารสุนทรสวัสดิ์ภาพ ค่อยยอบย่อยาตราเข้ามากรานกราบกรอัญชลี สมเด็จพระบรมดาบสดาบสินีทั้งสองกษัตริย์ ซึ่งทรงสถิตในหน้ามุขพระอาศรมนิเวศน์วัดวงกตศิขเรศ แล้วก็ทูลถามยุบลเหตุอันเนาผนวชไพรกระทำประพฤติปราศรัยว่า ขึ้น โภ ตาปส ข้าแต่พระบาทบรมราชนักสิทธิ์ ตั้งแต่พระองค์มาทรงบรรพชิตในห้องหิมวันต์ยังนิราศไร้โรคันขันธมาร เสวยสวัสดิ์สุขสำราญอยู่หรือพระพุทธเจ้าข้า อุญฺเฉน ยาเปถ ทรงเสวยมูลผลาเลี้ยงพระชนมชีพด้วยง่ายไม่ลำบาก ทั้งเหลือบยุงบุ้งทากไม่ขบกัด ฝูงทีฆชาติมิได้มากระทำภัยพิบัติเบียดเบียน วเน พาฬมิคากิณฺเณ ในพนาสัณฑ์สิอาเกียรณ์ไปด้วยพาลจัตุบาท ยังมีมาบีฑาถึงพระอาวาสบ้างหรือว่าหามิได้ เดิน ท้าวเธอจึงตรัสตอบว่าขอบใจธอาจารย์ ซึ่งท่านถามถึงทุกสิ่งนั้นก็สำราญบริบูรณ์มิได้เดือดร้อน สตฺต โน มาเส วสตํ ตั้งแต่เรามาเนาพนาดรก็ได้ถึงเจ็ดเดือน เลี้ยงชนมชีพในแถวเถื่อนทุรัสพนัสพนมระทมไปด้วยความโศก ด้วยเสวยทุกข์วิโยคแรมร้างพระพารา ทุติยํ ปสฺสาม พึ่งเห็นท่านสัญจรมาเป็นคำรบสอง พิศผิวพรรณผุดผ่องเพียงพรหมพฤฒาจารย์ ทั้งกิริยาอาการกอปรด้วยมารยาท ถือไม้เท้าสีเหลืองวิลาสเล่ห์ผลมะตูม อุ้มเครื่องกระยาพรตพิธี ทั้งนุ่งห่มหนังพยัคฆีครองอิสีเพศ สฺวาคตนฺเต ท่านมานี่เป็นศรีสวัสดิ์วิเศษสารภิรมย์ มาแต่ไกลก็เหมือนใกล้ได้สมาคมเคยคุ้น เป็นกัลยาณมิตรสโมสรสุนทรสถาพร อนฺโต ปวิส ภทฺทนฺเต เชิญธชีเข้าไประงับร้อนในโรงน้ำนั้น จงล้างเท้าแล้วอาบฉันสินธุใสสะอาด อันเรานำมาแต่หุบห้วยศิลาลาดละหารธาร แล้วบริโภคมูลผลาหารล้วนเป็นของป่า กับน้ำผึ้งสดรสโอชาตามแต่จะชอบใจ ขึ้น เกน วา ปน เหตุนา อนึ่งท่านจะประสงค์สิ่งใดหรือ ธ อาจารย์ จึงดั้นดัดพนัสสถานมาถึงเรา อย่าเกรงใจบอกเล่าโดยสารคดีในกาลบัดนี้เถิด
(3) เดิน อถ สกฺโก ลำดับนั้นท้าวโกสีย์สักกเทวราช เมื่อจะทูลขอพระเยาวมาลย์มาศมัทรีศรีสุนทรเทพกัญญา จึงชักทำเนียบเปรียบพระราชศรัทธาในทานบารเมศ ว่า ขึ้น วาริวโห เมาะ ปญฺจ มหานทิโย พระพุทธเจ้าข้า อันว่ากระแสสายสินธุวาเรศในปัญจมหานทีธาร ย่อมไหลหลั่งสังสันทนาการไม่รู้ขาดสาย สรรพนิกรสัตว์ทั้งหลายได้กินอาบ ก็เย็นซาบสรีระอินทรีย์ เกษมสานติ์สำราญรมย์ฤดีดับอาดูรเดือดร้อน บรรเทาทุกข์ทั่วทิศาดรสันดานสัตว์ ก็เสมอเหมือนพระกมลโสมนัสในมหาทาน ด้วยพระการุญวิบุลญาณหยั่งไปทั่วทุกตัวประชาชาติ ในไตรโลกสันนิวาสไม่เว้นตน ข้าธชีนี้ขัดสนยากไร้ไม่มีผู้ที่จะปฏิบัติ จะขอพระเกศแก้วกษัตรีย์นารีรัตน์ไปร่วมภิรมย์ จะได้เป็นคู่ครองสองสมในครั้งนี้ จงทรงประสาทพระมัทรีให้เป็นทาน แก่ข้าพฤฒาจารย์นี้เถิด
ททามิ น วิกมฺปามิ ฯลฯ สคฺเค เตตํ วิปจฺจตูติ
(4) เดิน มหาสตฺโต สมเด็จพระบรมพุทธางกูรมหาสัตว์ ได้ทรงสดับอรรถสารคดี ซึ่งธชีมาทูลขอพระเยาวมาลย์ ก็ทรงพระโสมนัสเบิกบานปรีดา มิได้ทรงพระจินตนาดังนี้ ว่าเมื่อวันวานได้ประสาทสองกุมารกุมารีโอรสแล้ว วันนี้จะอำนวยนางแก้วกระไรได้ ไม่ย่อท้อพระหฤทัยถอยหลัง พระสติดำริตั้งต่อพระโพธิญาณ จึงมีพระราชโองการว่า ดูกรธชี ท่านมาขอพระมัทรีศรีเสาวภาคย์ อันเป็นเพื่อนพเนจรจากพระนครเมื่อยามไร้ จิตของเราก็ผ่องใสโสมนัสในทาน มิได้หวั่นไหวด้วยมัจฉริยะหมู่มารมลทิน อันเป็นทานราคินหินโทษ จะยกให้สำเร็จประโยชน์พฤฒาจารย์ แลกเอาพระสัพพัญญุตญาณในภายหน้า พลางทรงพระเต้าอุทกวารี แล้วกุมพระกรมิ่งมหิษีสุขุมกษัตริย์มัททราชวงศ์ จึงหลั่งอุทกให้ตกลงเหนือมือธชี ก็เปล่งพระปณิธานวาทีบัณฑูรประกาศ ขึ้น ว่า พราหมณ์เอ่ย อันองค์เอกอัครราชกัญญา เราก็แสนเสน่หาดังดวงหทัยแลนัยน์เนตร ปิยตรํ แต่เรารักพุทธรัตน์สรรเยศวิเศษสุด ยิ่งกว่าองค์อนงค์นุชสักแสนเท่า อิทํ ทานํ อันว่าภริยทานของเราจงให้สำเร็จ แก่พระสร้อยสรรเพ็ชญ์ดาญาณ ในอนาคตกาลโน้นเถิด
(5) เดิน ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ผู้ทรงศีลสมาธิอินทรีย์ ปางเมื่อพระปิ่นภพสีพีพุทธางกูรนราธิเบศร์ ทรงสละพระอัคเรศราชพงางามในยามนั้น ก็บังเกิดมหัศจรรย์จลาจลทั่วสกลจังหวัดจักรวาลขึ้น พื้นพสุนธราธารก็ไหวหวั่น ทั้งขุนเขาสัตตบริภัณฑ์สิเนรุราช ต่างน้อมยอดอย่างจะอภิวาทประกาศก้องซร้องสาธุการ สะเทือนท้องพระหิมพานต์เพียงจะเพิกพังภินทนาการถล่มทำลาย มหาสาครก็ตีฟองคะนองสายสินธุธาราฉะฉ่าฉาน ฝูงทวยเทพอุโฆษณาการประณมกรน้อมเกศ อนุโมทนาพระอุปบารเมศมีสำเนียงเสียงเสนาะสนั่นเนียรนาท เบื้องต่ำตั้งแต่อัชฎากาศเท่าถึงภวัคคพรหม สะท้านสะทึกพิลึกระดมเป็นอันหนึ่งอันเดียวดังนี้ ปางเมื่อท้าวเธอยกยอดพระบารมีมหาภริยทาน แก่อินทร์พฤฒาจารย์นั้นแล
(6) เดิน สมเด็จพระยอดกัญญานารีรัตน์มัททราชบุตรี เมื่อพระบรมราชสามีทรงประสาทพระราชทานแก่พฤฒาจารย์วันนั้น นางท้าวจะได้ทรงไหวหวั่นพรั่นพระทัยโทมนัสรันทด ถึงพระพักตร์เศร้าสลดอัสสุชลคลอคลองพระนัยนานั้นหามิได้ พิมพ์พระพักตร์ผ่องใสบริสุทธิ์ศิริวิลาศ ดุจดวงบงกชผกามาศอันเบ่งบาน ด้วยทรงพระวิจารณ์จินตนา ว่าท้าวเธอทรงพระราชศรัทธาบริจาค ซึ่งนางแก้วอันหายากอย่างอาตมา ด้วยพระทัยมิได้กรุณาแหนงหน่าย เหตุเคลือบแคลงระแวงเรื่องร้ายสิ่งใดก็มิได้มี ทรงประสาทเพราะประสงค์ศรีสรรเพ็ชญ์โพธิสมบัติ จะแลกเอาพระพุทธรัตน์วรญาณ อันเป็นเอกอริยธนสารพิสุทธิพิเศษ จะข้ามสัตว์ให้พ้นเขตสงสารสาคร น้องท้าวเธอทรงพระอนุสรณ์ดังนี้ ก็เบิกบานพระกมลเปรมปรีดิ์ปราโมทย์ ไม่มีมุขวิการโทษยินยอมพร้อมด้วยพระราชศรัทธา ท้าวเธอจึงทอดทัศนาพิมลพักตร์ พระน้องรักจักวิกลประการใด จะมัวหมองหรือผ่องใสในครั้งนี้ จักร่วมบำรุงพระทานบารมีหรือจะหม่นหมอง เมื่อพิศพักตร์พระนางน้องเห็นผ่องผุด เพียงศศิธรบริสุทธิ์สว่างเมฆ ก็ทราบว่านางนี้เป็นเอกอัครนารี เป็นคู่สร้างพระบารมีมาแต่ก่อนกาล ทรงพระเกษมศานต์โสมนัสนิ่งนึกในพระทัย พระมัทรีก็ทราบอัชฌาสัยพระภัสดา ขึ้น จึงทูลว่า ข้าแต่พระจอมจุฬาจรรโลงโลก จะนำนิกรชนให้พ้นจากจตุรโอฆสาคร ดังฤๅมาทรงพระอนุสรณ์เคลือบแคลงแหนงในข้าพระบาท ผู้ได้ฉลองละอองบาทเรณุมาศพระร่มเกล้า แต่แรกรุ่นดรุณยุพเยาว์ยามเสวยสวัสดิ์ มิได้เคยระคายขุ่นหมองข้องขัดพระอาชญา ก็ย่อมทราบอยู่ใต้พระบาทาที่ชั่วดี เมื่อพระเป็นเจ้าจะบริจาคข้าผู้ทาสีให้แก่ผู้ใด จะนำไปเป็นทาสช่วงใช้หรือจะจำนงจำหน่าย ด้วยมีกมลมุ่งหมายประสงค์ทรัพย์ หรือปรารถนาเนื้อเลือดจะเชือดสับให้สิ้นชีวาสัญ ก็ตามแต่เจตนาผู้นั้นจักปองประโยชน์ ข้ามัทรีนี้มิได้มีมนัสพิโรธให้เคืองข้อง จะเอาชีวิตและกายนี้ถวายฉลองพระเดชพระคุณ วิบุลบงกชบาทพระราชสามี ด้วยกตัญญูกตเวทีทางธรรมสุจริต ขอพระองค์อย่าทรงพระอาโภคพินิจนึกแหนงพระทัย จงมีพระกมลผ่องใสโสมนัสเปรมปรีดิ์ ด้วยภริยทานบารมีคือข้าพระบาท อันยินยอมพร้อมด้วยพระราชศรัทธา ในกุศลเจตนานั้นแล้วแล
(7) เดิน ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ผู้ทรงศีลาทิคุณพิเศษ สมเด็จท้าวสหัสเนตรจอมสิเนรุราช เมื่อทราบพระกมลประสาทสองกษัตรา ทรงสโมสรศรัทธาภิรมย์ร่วมหฤทัยในพระทานบารมี จึงเปล่งสุนทรเทววาที อนุโมทนาว่า ขึ้น พระพุทธเจ้าข้า บรรดามัจฉริยะหมู่มาร อันเป็นปัจจนิกทานมลทิน อาจจะห้ามมิให้ได้ทิพยโภคามานุษยสมบัติทั้งสิ้น ก็พ่ายแพ้พินาศด้วยพระองค์ทรงพระประสาทภริยมหาทาน บังเกิดมหัศจรรย์บันดาลจลาจลทั่วสกลพิภพโลกา ฝูงเทพอนุโมทนาสาธุการ ทุกฺกรํ หิ กโรติ โส พระร่มเกล้าบำเพ็ญบุตรทารทานอันยอดยาก บุคคลผู้ใดใครจะบริจาคได้ดังนี้ พฺรหฺมยานํ จัดได้ชื่อว่าเป็นพรหมยานประเสริฐศรีสุนทรสวัสดิ์ เหตุละล่วงวิถีทางอบายพิบัติภยันตราย วิปจฺจตุ จักเป็นปัจจัยให้สำเร็จพระกมลที่มุ่งหมาย ปรมัตถปรมาภิเศกสมโพธิพุทธภูมิบารมีญาณ โดยดังพระปณิธานนี้แล้วแล
(8) เดิน เมื่อสมเด็จท้าววัชรินทร์ปิ่นสุทัศนเทพธานีตรีเนตร ตรัสอนุโมทนาพระทานบารเมศแล้ววิจารณ์จินตนา ว่าควรอาตมจะคืนถวายพระเกศแก้วกัญญาเยาวมาลย์มาศ จะได้อยู่บำรุงบำเรอบรมบาทดุจก่อนกาล ก็มีมธุรเทวบรรหารตรัสประภาส ด้วยบาทพระคาถา
ททามิ โภโต ภริยํ ฯลฯ วเร อฏฺฐ ททามิ เตติ
(9) ขึ้น เทว ข้าแต่พระมิ่งโมลีมกุฎสมมติเทพวงศ์ ข้าธชีนี้เป็นเผ่าพงศ์หินเพศพวกภิกขาจาร ทั้งชรารูปวิการเกือบจะวายชีวาตม์ ไม่ควรครองพระน้องนาฏนางกษัตริย์ ขอคืนถวายไว้ปฏิบัติบวรบาทบงสุ์ ควรแต่คู่ครองสองสุริยวงศ์บวรวิสุทธิชาติ ทั้งพระหฤทัยก็ใสประสาทส่องเหมือนพระราชศรัทธา สมทั้งสองครองพรหมจรรยาพิธีศีลพิเศษ ยถา ปโย จ สงฺโข จ ดุจดังสังข์เสวตกับกระแสกษิรวารี ก็ขาวผ่องพรรณพิสุทธิสีเสมอสมานปานประดุจนั้น ปุญฺญานิ กยิราถ ทั้งสองพระองค์จงทรงแสวงกุศลสรรพสุจริต บำเพ็ญพุทธการกกิจกอบก่อบวรกฤษฎาธิการอย่ารู้อิ่มพระบวรสันดานพึงภิยโยภาพ กว่าจะบรรลุโลกุตรลาภเลิศในธาตรี เมื่อท้าวเทพโกสีย์จักถวายวรัษฎาพร แด่สมเด็จพระบรมหน่อชินวรรวิวงศ์ จึงกราบทูลว่าข้าพระองค์นี้ใช่พราหมณ์ชราทิชาชาติ เทวินฺโท เป็นท้าวเทวราชสุราธิบดี มาสู่พระองค์ประสงค์จะประสาทศรีสถาวรสวัสดิ์อัฏฐวเรศ พระร่มเกศจักปรารถนาพระพรอันใด ก็ตามพระราชหฤทัยจงบัณฑูรแถลง แล้วท้าวสุชัมบดีก็แสดงเทวศักดาเดช แปรพระกายินทรีย์เป็นตรีเนตรเหาะระเห็จทะยาน เหนือห้องท้องทิฆัมพรคัคนานต์ในขณะนั้น เปล่งทิพยรังสีมีพรรณโอภาส ดุจดวงดรุณภาณุมาศอุทัยทิวากร ยังยอดยุคันธรศิงขรนั้นแล
(10) เดิน ตโต โพธิสตฺโต ลำดับนั้นพระบรมพุทธพงศ์โพธิสัตว์ขัตติยาธิเบศร์ เมื่อจะขอบวรอัฏฐวเรศแด่วัชรินทร์ ปิ่นอมรคณาสุราสุรเทพบรรษัท ก็ดำรัสโดยสาระพระคาถา
วรญฺเจ เม อโท สกฺก ฯลฯ อฏฺฐเมตํ วรํ วเรติ
(11) ขึ้น สกฺก ดูกรท้าวเทวอดิศรสุรมเหสักข์มัฆวาน ผู้เคารพในทานเบื้องบุเรชาติ สพฺพภูตานมิสฺสร เป็นองค์อัครอิศราธิราชหมู่อมรแมน เรานี้มีประสงค์ให้พระบิตุรงค์ระงับเคืองแค้นที่โทษา จงยกพยุหแสนยาพลากรออกมารับเราคืนนครเสวยสวรรเยศ ปฐเมตํ วรํ วเร พระพรนี้เป็นปฐมวเรศให้แก่เรา ประการหนึ่งปางเมื่อคืนเข้าครองพิภพสีพี สำเร็จบรมกษัตราภิเศกศรีสวัสดิ์มไหศวรรย์ ฝูงนักโทษที่รับราชทัณฑ์พันธนาการ ให้ได้ปล่อยเปลื้องทุกข์ทรมานจากจองจำ ทุติเยตํ วรํ วเร พระพรนี้เป็นคำรบสองจงประสิทธิประสาท อนึ่งอเนกนิกรประชาราษฎร์ที่หนุ่มแก่แลปานกลาง จะเลี้ยงชีพก็ขัดขวางด้วยคนจน จะพากันสัญจรเกลื่อนกล่นมาสู่สำนักเรา ขอจงได้ทำนุกปลูกเลี้ยงเหล่าทรพลชนอนาถา ให้บริบูรณ์ด้วยพิพิธโภคากระยาหาร สรรพวัตถาลังการอันอุดม ตติเยตํ วรํ พระพรนี้ให้เสร็จสมเป็นคำรบสาม อนึ่ง ขออย่าให้ลุอำนาจมาตุคามกอปรด้วยกายทุจริต ในปรทารกรรมอธรรมกิจกามครุโทษ จงปรีดาสทารสันโดษบริสุทธิ์สันดาน อย่ามุ่งหมายฝ่ายมิจฉาจารจำนองจิต จตุตฺเถตํ วรํ วเร พระพรนี้เป็นสี่ประสิทธิ์ให้แก่ข้า อนึ่งซึ่งองค์อัครโอรสาเกิดกับอกองค์ จงมีชนมายุยืนยงยิ่งด้วยยศศักดิ์ ให้ปราบปรามหมู่ปรปักษ์ปราชเยศ โดยทศธรรมทั่วธเรศธำรงภพ ปญฺจเมตํ วรํ วเร พระพรนี้นับเป็นคำรบห้าประการ อนึ่งปางเมื่อถึงบุรีรมย์สถานกาล อรุโณภาส ให้แสนสัตตรัตนามาศทิพยพิรุณธารา จงตกเต็มสกลมหานครพิศาล ฉฏฺฐเมตํ วรํ วเร พระพรนี้ให้เสร็จสมปณิธานเป็นคำรบหก อนึ่งเบื้องว่าบริจจาคทานแก่ยาจกทั่วทั้งธรณินทร์ พระราชทรัพย์อย่ารู้สุดสิ้นสรรพโภคา อย่าพึงท้อถอยศรัทธาอาดูรเดือดร้อน จงโสมนัสสาทรอำนวยทาน สตฺตเมตํ วรํ วเร พระพรนี้นับเป็นเจ็ดประการโดยกำหนด อนึ่งเมื่อเราดับขันธ์ทิวงคตจงอุบัติบันดาล ในดุสิตเทวสถานทิพพาวาส แล้วจุติสู่ปัจฉิมชาติในมนุษยโลกา จงบรรลุพระปรมาภิเศกสมโพธิ อฏฺฐเมตํ วรํ วเร พระพรนี้ให้สำเร็จประโยชน์เป็นแปดประการ ท้าวมัฆวานจงประสิทธิ์สมมโนรถจำนง โดยดำริประสงค์นี้แล้วแล
ตมตฺถํ ปกเสนฺโต สตฺถา อาห
ตสฺส วจนํ สุตฺวา ฯลฯ สคฺคกายํ อปกฺกมีติ
(12) เดิน ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ผู้ทรงศีลสังวรสิกขา เทวินฺโท สมเด็จท้าวเทพสุเรนทราธิบดินทรเทวราช ทรงสดับบวรวัจนาตถ์นราธิเบศร์ ก็ตรัสประสาทอัฏฐวเรศให้ประสิทธิ์สมประสงค์ ขึ้น อจิรํ วต เต ตาโต ไม่นานนักบรมอัครปิตุรงค์ก็จะกรีฑา ทวยหาญพหลพลพยุหแสนยาพลากร ออกมารับเสด็จคืนพิไชยเชตุดรดำรงราชาฉัตร เสวยพิภพสีพีบุรีรัตนราชมไหสูรย์ อย่าทรงพระจินดาอาดูรมิเป็นไร คงจะเสร็จสมภิรมย์หฤทัยทุกสิ่งสรรพ์ อปฺปมตฺโต โหหิ จงมีพระกมลมั่นอย่าประมาท ในพรหมจริยวาสเสวยสุขวิเวกเนกขัมมปรมัตถบารมี โดยพุทธางกูรพิธีนั้นแล
(13) ขึ้น ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ผู้ทรงศีลสมาธิญาณ เทวราชา สมเด็จท้าวมัฆวานวัชรินทรเทเวศร์ ผู้เฉลิมมกุฎเกศแสนสุรคณา ทั้งสองสวรรค์ชั้นกามาวจรเทพธานี สุชมฺปติ เป็นพระราชสามีองค์อัปสรสุรางคพิลาส สุชาดาสมรมาศมิ่งวิมลมาลย์ วรํ ทตฺวา ถวายพระพรแปดประการแก่พระมหาสัตว์ แล้วเสด็จนิวัตนทิวังคนิเวศน์วรเวชยันต์ ในดาวดึงสาสวรรค์นั้นแล ฯ
สกฺกปพฺพํ นิฏฺฐิตํ ฯ
ประดับด้วยพระคาถา ๔๓ พระคาถา
เอวํ ก็มีด้วยประการดังนี้แล ฯ
(ปี่พาทย์ทำเพลงกลม)