กัณฑ์ที่ ๑๓ นครกัณฑ์ ๔๘ พระคาถา
ระมหาสม สุทฺธิปภาโส
ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดหลักสี่ พระอารามหลวง
พระนิพนธ์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส
--------------------------
ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ปิตรา สทฺธึ สลฺลปนฺโต อิมํ คาถมาห
ธมฺเมน รชฺชํ กาเรนฺตํ รฏฺฐา ปพฺพาชยิตฺถ มํ
ตฺวญฺจ ชานปทา เจว เนคมา จ สมาคตา
ทุกฺกฏญฺจ หิโน ปุตฺต ภูนหจฺจํ กตํ มยา
โยหํ สิวีนํ วจนา ปพฺพาเชสึ อทูสกํ
เยน เกนจิ วณฺเณน ปิตุ ทุกฺขํ อุทพฺพเห
มาตุยา ภคินิยา ปิ อปิ ปาเณหิ อตฺตโน
ตสฺมา โทสํ อกตฺวาน วจนํ ตฺวํ กโรหิ เม
อิสิลิงฺคํ นีหริตฺวา ราชเวสํ อคณฺหสีติ
(1) เดิน ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต สมเด็จพระมหาสัตว์ขัตติยาธิเบศเวสสันดร เมื่อได้ทรงฟังฝูงชนมาทูลวิงวอนอาราธนา จะให้ลาผนวชเนาในสมบัติ ปิตรา สทฺธึ สลฺลปนฺโต จึงกราบทูลแด่พระเกศกษัตริย์สญชัยชนกาธิราช
ขึ้น ว่า ธมฺเมน รชฺชํ กาเรนฺตํ เมื่อข้าพระบาทดำรงรัตนราไชยมไหศวรรย์ โดยทศพิธราชธรรม์ประเพณี ตวญฺจ ชานปทา เจว ดังฤๅพระร่มเกล้ากับชาวสีพีนิคมชนบท สมาคตา ประชุมชวนกันพร้อมหมดมาเนรเทศ ให้พระลูกจากนคเรศมาแรมไพร บัดนี้มาอาราธนาจะให้คืนเวียงไชยเสวยศิริสมบัติ ดูนี้ก็ไม่ควรแก่เหตุอันเคืองขัดแต่หนหลัง เมื่อท้าวเธอได้ทรงฟังจึงตรัสปลอบประโลมพระโอรส เพื่อจะได้อดโทษโปรดประภาษว่า ปุตฺต ดูกรพ่อผู้เอกอัครชาติเฉลิมวงศ์ สิวีนํ วจนา พระบิดานี้มาลุ่มหลงเชื่อคำชาวพระนคร ปพฺพาเชสึ อทูสกํ จึงมาขับพระหน่อนเรศราชอุทรผู้เนียรโทษ ภูนหจฺจํ กระทำให้เสื่อมสูญเสียประโยชน์วุฒิอันตราย ทุกฺกฏํ ก็เป็นกรรมอันทารุณกำเริบร้ายวิปริตผิดอยู่แล้ว อนึ่งธรรมดาว่าลูกแก้วเกิดกับอก ยกอย่างอภิชาตเช่นปิโยรส ชีวิตํ ปริจฺจชิตฺวา ย่อมจะเสียสละพระชนม์ชีพแทนทดสนองคุณพระชนกชนนี โดยกิจกตัญญูกตเวทีทางธรรมวิเศษ ปิตุ ทุกฺขํ อุทพฺพเห จึงพึงบำบัดเสียซึ่งทุกข์เทวษของพระบิดามาตุราช ทั้งพระวงศาคณาญาติราชประยูร ตสฺมา โทสํ อกตฺวาน เหตุฉะนั้นพ่อจงดับอาดูรดวงกมลพิโรธ จงอดซึ่งโทสานุโทษแด่พระบิดร ทั้งแสนเสนาประชากรชาวพิไชยเชต อิสิลิงฺคํ นีหริตฺวา เชิญพ่อเปลื้องเครื่องดาบสเพศผนวชไพร ราชเวสํ อคณฺหสิ จงทรงซึ่งขัตติยวิสัยเสวยศวรรยาธิปัตย์ เป็นปิ่นสีพีบุรีรัตนราชพารา ตามคำของพระราชบิดานี้เถิด
(2) เดิน โพธิสตฺโต สมเด็จพระบรมโพธิสัตว์ศรีวิสุทธิเทพวงศ์ มีพระกระมลจำนงจะครองศิริสมบัติ จึ่งขอพรแด่สมเด็จพระวชิรหัตถเทเวศร์ ข้อที่ทูลทัดขัดพระบิตุเรศราชนรินทร์ ด้วยว่าเกรงประชาชนจะชวนกันดูหมิ่นว่าพระทัยเบาไม่หนักหน่วง จะล่วงเข้ามายินร้าย จึงทูลสนองโดยคลองขัตติยราโชบายดั่งนี้ เมื่อสมเด็จพระจอมภพสีพีตรัสอาราธนาถึงทุติยวาร ก็รับพระราชโองการว่าสาธุแล้วมิช้า ขึ้น สฏฺฐีสหสฺสา ขณะนั้นหมู่ภิมุขมาตย์สหชาติทั้งหกหมื่น รู้ว่าท้าวเธอรับอาราธนาจะลาผนวชคืนเข้าสู่นคเรศ ต่างคนก็ชวนกันน้อมเกศกราบบังคมทูล ว่าข้าแต่นเรนทรสูรศรีสมมติวงศ์ นหานกาโล กาลนี้ก็ควรจะเสด็จโสรจสรงสุคนธวาริน ชำระพระสรีระมลทินในสกลกาย ท้าวเธอจึงตรัสว่า ท่านทั้งหลายจงยับยั้งอยู่หน่อยหนึ่งก่อน ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา แล้วเสด็จบทจรเข้าสู่พระอาศรมสถาน โอมุญฺจิตฺวา จึงเปลื้องเครื่องดาบสบริขารเรียงลำดับไว้ ทรงเศวตภูษิตผ่องใสดังสีสังข์บริสุทธิ์สะอาด แล้วเสด็จยุรยาตรยังหน้ามุขพระบรรณศาลา จึ่งทรงพระจินตนาในพระทัย ว่า อิทํ ฐานํ โอ้พระอาศรมบทนี้ไซร้เป็นที่อาตมสืบสร้างศีลบารมี นับได้เก้าเดือนกับสิบห้าราตรีเป็นกำหนด ได้ทรงประพฤติพรหมพรตพิธีฌาน บำเพ็ญมหามกุฎทานอันยอดยาก เสียสละภริยาบุตรบริจาคเป็นมหัศจรรย์ พื้นพสุธานี้ก็มาบันลือลั่นทั่วสกลโลก นับวันแต่จะวิโยคจำไกล โอ้พระอาศรมศาลาลัยแลละเลื่อนฟ้า ตั้งแต่นี้จะโรยราแรมนิราศ ใครเลยจะแผ้วกวาด เสียดายเอ่ย แต่พระอาวาสหว่างจงกรม ทั้งแท่นที่บรรทมทิพยศิลาแก้ว นับวันแล้วแต่จะจำไกล โอ้พระอาศรมก็จะประลัยด้วยเพลิงป่า ทั้งฝูงสัตว์นานาจะยื้อแย่ง จะยับเยินทั่วทุกหนแห่งโอ้เวทนา ทรงพระอาลัยในพระบรรณศาลามิใคร่จะนิราศ ปทกฺขิณํ กตฺวา แล้วกระทำประทักษิณพระอาวาสสิ้นตติยวาร ถวายทศนัขสโมธานด้วยเบญจางคประดิษฐ์ แล้วเสด็จสถิตยังหน้ามุขพระอาศรม ทรงพระปรีดาภิรมย์ราชหฤทัย ด้วยสมดังพระสหัสนัยน์นั้นแล
ตโต เวสฺสนฺตโรราชา ฯลฯ สญฺชโย อภิรกฺขตูติ
(3) เดิน ตโต เมาะ ตทนนฺตรํ ในลำดับนั้นหมู่ภิมุขมาตย์ราชมนตรี ทั้งแสนสุรเสนีในนอกตำแหน่ง ก็เร่งรัดจัดแจงตามกระทรวง สำหรับพระราชพิธีทั้งปวงทุกประการ ขึ้น กปฺปกา ชาวพนักงานเครื่องต้น ก็ถวายเจริญพระเกศมัสสุมงคลควรแก่ราชกิจ แล้วเชิญบรมบพิตรสรงพระกระยาสนาน อันปรุงด้วยสุคนธ์ธารกลิ่นตระหลบ ชำระพระสรีราพยพฟุ้งขจร สพฺพาภรณภูสิตํ แล้วทรงเครื่องศิริราชวัตถาภรณ์พิจิตรจำรัส อันล้วนแล้วด้วยสัตตรัตนามาศ งามดังองค์สมเด็จ วัชรินทรเทวราชอันเรืองเดช ราชเวสมธารยิ ทรงเสวยขัตติยเวศวิสุทธิวงศ์ จึงสมเด็จบรมบิตุรงค์ราชนรินทร์ ก็อัญเชิญพระเอกอัครบดินทร์อดุลโอรส อันรุ่งเรืองด้วยดิเรกยศราชศฤงคาร เสด็จขึ้นสู่อุทุมพรสาขพิมานอันเลิศแล้ว สถิตเหนือพระที่นั่งบัลลังก์แก้วกาญจนมณี เบื้องบนรัตนราศีอันโอภาส ประดับด้วยเบญจพิธราชกกุธภัณฑ์สรรพราชูปโภคพร้อมเสร็จ อภิสิญฺจึสุ จึงอภิเษกสมเด็จพระบรมหน่อนเรศร์เป็นบรมขัตติเยศยอดมนุษยนิกร ผ่านพระพิไชยเชตุดรดำรงราชย์ แทนองค์สมเด็จชนินทรชนกนาถในเศวตฉัตร สืบเสวยศวรรยาธิปัตย์ปิ่นประชาชน ทั่วสกลพิภพสีพี แล้วถวายมุรธาภิษิตวารีแก่บรมกษัตริย์ สรงด้วยสังข์ทักษิณาวรรตวิไชยมงคล ทั้งสังข์สุวรรณหิรัญวิมลทั้งสามประการ ท้าวเธอก็กอปร์ด้วยพระเกียรติยศอันไพศาลสุดซึ่งจะพรรณนา เมื่อทอดพระเนตรในทิศานุทิศใดๆ ก็ชุลีกรไสวอยู่เดียรดาษ มุขมงฺคลิกา ขณะนั้นหมู่ทิชาชาติราชปุโรหิต ผู้เชี่ยวชาญชำนาญนิติไตรเพท ก็โอมอ่านอิศวรเวทวิษณุมนต์ อวยศิริสวัสดิมงคลถวายไชย ตุริยานิ ปคฺคณฺหึสุ ชาวพนักงานก็ประโคมขานไขมโหระทึก ทั้งดุริยางค์ก้องกึกแตรสังข์ เสียงฆ้องกลองประนังเนียรนาท สะเทือนท้องวนาวาสหิมวันต์ เมฆตชฺชิตนิคฺโฆโส วิย ดุจสำเนียงอสนีสนั่นในห้องมหาสมุทร อมจฺจา ฝ่ายภิมุขมาตย์ราชบุรุษเสวกากร ก็ตกแต่งพระยาปัจจัยกุญชรเศวตคช ประดับด้วยหัตถาลงกตกาญจนามัย ประทับเทียบยังเกยไชยคอยรับเสด็จ โพธิสตฺโต ส่วนสมเด็จพระบรมหน่อสรรเพ็ชญ์โพธิพงศ์ ก็สอดสะพักพระแสงขรรค์ธำรงวราวุธวิเศษ ปรนฺตปํ อาจมล้างอรินทรปราชเยศทั่วทิศาภาค นาคมารุยฺห เสด็จทรงมงคลรัตนนาคนาเคนทร์ อันเป็นบรมอัคราเชนทราอาสน์ สฏฺฐีสหสฺสานิ ฝ่ายภุมุขมาตย์สหชาติทั้งหกหมื่น ก็ชวนกันชมชื่นปรีดา ต่างๆ ก็ประดับกายาด้วยสุภาภรณ์ มีอาวุธประจำกรถ้วนทุกคน ปริกรึสุ ก็แวดล้อมพระจอมภพสกลมกุฎเกศกษัตริย์ สิวิกญฺญาโย ฝ่ายอเนกอนงค์นารีรัตนราชกัญญา ก็เชิญเสด็จพระสร้อยสุณิสามัทรีศรีอัคเรศ ให้ลาดาบสินีเพศผนวชไพร นหาเปสุ ํ แล้วโสรจสรงเสาวคนธมาลัยอุทกธารา ช่วยกันขัดสีพระกายายอดเยาวมาลย์ แล้วทรงบวรวัตถาลังการวิไลเลิศ ต่างๆ ก็อวยศิริสวัสดิ์ประเสริฐประสิทธิพร ให้เสวยสุขสถาวรวายเทวษ สรรพทุกข์ภัยพิบัติเหตุอย่าแผ้วพาน จงมีพระบวรสันดานชื่นชมด้วยบรมญาติ ทั้งสมเด็จพระชนกนาถราชสามี และพระกัณหาชาลีสองกษัตริย์ อย่ารู้มีพระทัยโทมนัสแหนงกัน จงทรงสมัครสโมสรเกษมสันต์สารภิรมย์ ด้วยมหามิตรธรรโมดมเป็นนิรันดร ในพระนครนี้แล้วแล
ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห
อิทญฺจ ปจฺจยํ ลทฺธา ฯลฯ อชโร ตฺวํ อมโร ภวาติ
(4) เดิน ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ผู้ทรงศีลสังวรวิเศษ อุโภ ขตฺติยา อันว่าบรมขัตติเยศทั้งสองพระองค์ คือสมเด็จพระเพสสันดรพงศ์พิสุทธิเทวราช แลพระเอกอัครอนงค์นาฏมัทรีสุนทรเทพกัญญา อิทญฺจ ปจฺจยํ ลทฺธา ท้าวเธอมาได้คืนครองศิริสมบัติ สืบเสวยบวรเศวตฉัตรเฉลิมวัง ปุพฺเพ กิเลสมตฺตโน จึ่งทรงพระอนุสรณ์คำนึงถึงความหลังตั้งแต่บรรพชิตเพศ เสวยทุกขเทวษในกลางไพร บัดนี้ก็บริบูรณ์ไปด้วยมไหศุริยศฤงคาร ควรที่จะเบิกบานทั่วพระธรณี อานนฺทเภริญฺจาราเปตฺวา จึ่งให้เอาอานันทเภรีอันวิจิตร ด้วยพิพิธกาญจนลดามาศ ไปตีป่าวประกาศแก่มหาชน ในเวิ้งหว่างวนาสณฑ์ศีขเรศประเทศวงกต ว่าบัดนี้พระเอกอัครปิโยรสราชสุริยวงศ์ เสด็จคืนพิภพดำรงดังก่อนเก่า พระราชอาณาจักรเป็นของพระลูกเจ้าตั้งแต่นี้ไป อานนฺทิยํ ปริจรึสุ ให้จตุรงค์เสนาในนิกรประชา เล่นอานันทมหามหรสพครบตติยวาร เสียงนี้ก็เอิกเกริกสะเทือนสะท้านวนาวาส ขึ้น ลกฺขณา อันว่าสมเด็จพระยอดเยาวมาลย์มาศมกุฎคณานาง อันทรงศุภลักษณ์สรรพางค์วิไลเลิศ เมื่อประสบพระโอรสประเสริฐสองกุมารา ก็ทรงพระโสมนัสปรีดาด้วยพระหน่อกษัตริย์ จึงมีพระเสาวนีย์ตรัสปลอบประโลมพระลูกแก้วแล้วรับขวัญ ว่าเจ้าแม่เอ่ย แม่ลูกได้เห็นหน้ากันเมื่อยามยาก จำเดิมแต่วันพราหมณ์มาพรากไปจากอก พระชนนีนี้ก็แสนวิตกตั้งแต่ตรึกตรอม จนพระสรีรรูปนี้ก็มาซูบผอมผิดพิกล เสวยแต่อัสสุชลครวญคร่ำร่ำกำสรด ด้วยบำราศพระโอรสทั้งสองรา พระแม่นี้ก็มาตั้งวัตรจริยาทรมานตน เอกภตฺตา ปุเร อาสึ เมื่อยามเสวยก็เสวยแต่วันละหนทนทุกข์เทวษ ยามไสเยศก็ผทมกับปฐพี ปราศจากบรรจถรณ์แท่นที่จะรองกาย ตั้งพระทัยมั่นหมายว่าจักประสบพบพระลูกแก้ว ตํ เม วตํ สมิทฺธชฺช บัดนี้วัตรปรนนิบัตินั้นก็สำเร็จแล้วด้วยลุปรารถนา แม่มาได้เห็นหน้าเจ้าทั้งสององค์ ก็สมเหมือนจิตแม่ประสงค์ในวันนี้ ปุตฺตกา ดูกรแม่กัณหาพ่อชาลีหน่อกษัตริย์ อันว่าสิ่งแสนโสมนัสปรีดา อันบังเกิดด้วยเสน่หาการุญจิต แห่งสมเด็จบรมบพิตรผู้ชนกนาถราชชนนี ทั้งสมเด็จพระอัยกาธิบดีอันเรืองเดช ปาเลตุ จงรักษาเจ้าผู้ดวงเนตรทั้งสององค์ ยํกิญฺจิตฺถิ กตํ ปุญฺญํ อนึ่งทั้งพระราชอานิสงส์กุศลสัตย์ มีต้นว่าศีลสมาธิวัตรบวรทาน อันพระชนกชนนีมีอภินิหารมาแต่ปางก่อน ตราบเท่าถึงบรรพชากรในครั้งนี้ จงมาคุ้มครองสองศรีสุริโยรส อชโร ตฺวํ อมโร ภว ให้เจ้าเจริญพระยศนิราศโรค สิ่งสรรพทุกข์โศกอย่าบีฑา จงมีพระชนมพรรษาสืบสุริยวงศ์ เสวยพิภพดำรงราชอาณาเขต ในกรุงสีพีพิไชยเชตุดรมหานครนั้นแล
ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตูถา อาห
กปฺปาสิกญฺจ โกเสยฺยํ ฯลฯ อีสาทนฺตํ อุรุฬหวนฺติ
(5) เดิน ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ผู้ทรงศีลสมาธิอินทรีย์ ส่วนสมเด็จพระผุสดีศรีสุนทรวิลาส ผู้เป็นบรมสัสสุราชมารดร ก็ทรงจัดพระภูษาลังกาภรณ์อันพิจิตรเพริศแพร้ว ใส่ในผอบแก้วกาญจนมณี พระราชทานไปแก่พระสร้อยสุณิสามัทรีให้ประดับองค์ ล้วนแต่สรรพเครื่องทรงกษัตรย์ ขึ้น กปฺปาสิกญฺจ คือพระภูษากัปปาสิกพัสตร์ เกิดแต่กรุงกาสิกรัฐบุรีรมย์ กปฺปาเสน กตํ อันนายช่างทอด้วยด้ายอุดมดูละเอียดอ่อน โกเสยฺยํ ทั้งโกไสยวัตถาภรณ์พรรณไพบูลย์ บังเกิดแต่ตระกูลโกไสยราฐ อันแล้วไปด้วยใยกิมิชาติช่างรจนา เป็นสีสุวรรณอาภาพิพิธพรรณราย วิจิตรไปด้วยลวดลายนี้ก็หลายอย่าง ทั้งพื้นพรรณต่างๆ ประหลาดกัน โขมํ มีทั้งโขมภูษาพรรณพิสุทธิเศวต อันขจิตรไปด้วยเปลือกไม้วิเศษในโขมราฐ โกทุมฺพรานิ จ อีกทั้งบวรวัตถาชาติต่างพรรณ บังเกิดแต่เขตขัณฑ์โกทุมพรรัฐ อันนายช่างทอด้วยขนสัตว์วิจิตรบรรจง สตสหสฺสคฺฆนิกํ กำหนดราคาคงได้แสนตำลึง แต่ละผืนละผืนหนึ่งก็ค่ามาก ล้วนแต่พระภูษาหายากทั้งสี่ตระกูล อนึ่งทั้งเครื่องอลังกรจำรูญเรืองจำรัส กายูรํ เมาะ สุวณฺณวลยํ คือสุวรรณพาหุรัดบวรวลัย ล้วนสัตตรัตนามัยอันไพโรจน์ องฺคทํ ทั้งกุณฑลมณีโชติชัชวาล รัตพัสตร์แก้วกาญจโนภาส โขมญฺจ กายูรํ ทั้งสุวรรณรัตนราชธำมรงค์ สำหรับจะสอดสวมทรงทุกนิ้วพระหัตถ์ คีเวยฺยํ รตนามยํ ทั้งสายสร้อยนพรัตน อลงกร เป็นเครื่องพระกัณฐาภรณ์บวรวิเศษ อุณฺณตํ เมาะ อุณฺหีสปสาธนํ ทั้งพระมหามกุฎวชิเรศ
อย่างขัตติยนารี เป็นเครื่องประดับพระเกศโมลีวิไลเลิศ มุขผุลฺลญฺจ อีกอลงกตประเสริฐสุพรรณมาลา สำหรับจะแซมใส่พระเกศานางกษัตริย์ ล้วนแล้วด้วยพิพิธรัตนามาศ เป็นเครื่องเฉลิมพระนลาตอันโอฬาร อุคฺคตฺถนํ คิงฺคมกํ ทั้งพระปโยธรอลังการกาญจนบวร อีกพระอังสาภรณ์พิจิตรเพริศแพร้ว ปฏิปาทุกํ ทั้งฉลองพระบาทแก้วกนกมณี ล้วนแต่เครื่องต้นอย่างดีสรรพทุกสิ่ง ขึ้น ราชปุตฺตี ส่วนสมเด็จพระยอดเยาวมาลย์มิ่งมกุฎกัญญา อันเป็นบรมนเรนทรธิดาดวงกษัตริย์ ผู้ทรงสิริสวัสดิ์วิลาสเลิศมนุษย์คณานาง ด้วยบวรลักษณ์เบญจางค์เจริญเนตร ก็ทรงสรรพภูษิตวิเศษสุภาภรณ์ เทวกญฺญาว นนฺทเน งามดังองค์อินทรอัปสรเสด็จประพาส ยังทิพยนันทวันราชอุทยาน สุวณฺณกทลี วิย พระอรองค์อ่อนระทวยปานกาญจนกัทลี บังเกิดในสวนศรีศักรเทเวศร์ อันชื่อจิตรลดาวันวิเศษแสนสุขภิรมย์ ยามเมื่อต้องลมรำเพยพาน ก็น้อมยอดทอดก้านอยู่ไปมา วิชิมฺห- มานา ผู้ใดได้ทัศนาการก็พิศวง ด้วยพระศิริลักษณ์ลออองค์อันวิลาศ นิคฺรธปกฺกพิมฺโพฏฺฐี ทั้งพระบวรโอษฐ์เอี่ยมสะอาดอำไพ มีพรรณดังผลไทรที่สุกสด สรรพสิ่งงามพร้อมหมดทั่วพระอินทรีย์ มานสินีว ดุจนางเทพกินรีวิหคอนงค์ มีรูปทรงนี่ก็เหมือนมนุษย์บริสุทธิสมบูรณ์ ทั้งปีกหางก็วิจิตรจรูญเจริญตา แล้วบินฟ้อนร่อนร่าในอากาศ ตสฺสา จ นาคมาเนสุ ํ ขณะนั้นหมู่ภิมุขมาตย์ราช มนตรี ก็ผูกคชสารศรีพระที่นั่งต้น อันเป็นมหามงคลคเชนทร นาติวุฑฺฒํ มิได้แก่อ่อนเป็นมัชฌิมชาติเชื้อกุญชรเชี่ยวชาญชำนาญในพิชัยยุทธ์ สตฺติกฺขมํ อาจอดกลั้นสรรพศาสตราวุธหอกปืน ไม่ย่อย่นยั่งยืนอยู่สงคราม อีสาทนฺตํ มีงาอันงอนงามดังงอนรถ ดูนี่ก็ช้อยชดเชิดขึ้นขวา อุรอฬฺหวํ ทรงพิริยะกำลังกล้าว่องไว อาจจะปราบอรินทร์ให้ปราชัยทั่วทิศาดล ประดับด้วยหัตถาภรณ์เครื่องต้นเสร็จแล้ว ก็นำมาประทับกับเกยแก้ววิจิตรรูจี จึงสมเด็จพระมัทรีศรีวิสุทธิกัญญา นาคมารุหิ ก็เสด็จทรงบรมไอยราคชาชาติ แวดล้อมไปด้วยดิเรกราชบริพาร อุโภ ขตฺติยา กษัตริย์ทั้งสองก็ประดับด้วยแสนศฤงคารมหัติยศเยศ เสด็จทถึงขันธวารประเทศที่ประทับไพร ย้าย สญฺชโย ส่วนสมเด็จพระเจ้ากรุงสญชัยราชอัยกา ก็พาบรมบุตรนัดดาคณานิกรอนงค์ ทั้งหมู่พหลจตุรงคราชโยธี สิบสองอักโขเภณีเที่ยวประพาส ชมพนมพนัสพนาวาสหิมพานต์ มาสมตฺตํ กำหนดได้เอกมาสประมาณโดยนิยมมา สรรพสัตว์มิได้บีฑาซึ่งกันและกัน ในจังหวัดวนาสัณฑ์สิงขรเขต มหาสตฺตสฺส เตเชน ด้วยบรมบุญฤทธิศักดาเดชสมติงสบารมี แห่งหน่อพระชินสีห์นั้นแล
ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห
สพฺพมฺหิ ตํ อรญฺญหิ ฯลฯ สิวีนํ รฏฺฐวฑฺฒเนติ
(6) เดิน ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ผู้ทรงศีลวิสุทธิสังวร ปางเมื่อสมเด็จพระเวสสันดรอดุลดวงกษัตริย์ สิวีนํ รฏฺฐวฑฺฒเน อันทรงประพฤติความเจริญศิริสวัสดิ์แก่ชาวสีพีราฐ เสด็จจากศักรทัตติยาวาสวนาศรม สรรพสัตว์ในพนัสพนมแนวพนาเวศ ทั่วปริมณฑลขอบเขตทั้งสามโยชน์เป็นกำหนด ซึ่งสมเด็จพระยอดประยุรยศมกุฎกษัตรา อันทรงแผ่พรหมวิหารสีมาไปกางกั้น คือข่ายเพชรทั้งเจ็ดชั้นช่วยกำบังภัย ยาวนฺเตตฺถ ประมาณมากน้อยเท่าใดแต่บรรดามี เอกชฺฌํ สนฺนิปตึสุ ก็มาสโมสรประชุมในประเทศที่อันเดียวดูอัศจรรย์ แล้วต่างๆ ก็ปรับทุกข์กันตามประสาสัตว์ ว่าพระเดชได้อยู่คุ้มสรรพอุปัทวันตราย เราท่านทั้งหลายนี้ก็กอปรไปด้วยเมตตาการุญจิต มิได้เกิดประทุษฐกิจก่อการพาลพิบัติเหตุ บัดนี้พระปิ่นปกเกศจะจากไกล ขึ้น อิโต ปฏฺฐาย ชาวเราเอ่ย จำเดิมแต่นี้ไปจักอนาถา ลชฺชา วา น ภวิสฺสติ ต่างๆ ก็จะไม่สำรวมกายละอายบาป จักริเริ่มกันทำกรรมอันหยาบอย่างบุราณกาล จักเบียดเบียนกันเป็นอาหารตามประโยชน์ตน สรรพสัตว์จัตุบททวิบาทสิ้นทั้งไพรสณฑ์ชวนกันเศร้าโศก ด้วยมหาบุรุษวิโยคอาดูร นาสฺส มญฺชูนิ กูชึสุ มิได้เปล่งเสียงไพเราะจำรูญจำเริญใจ ให้เย็นยะเยียบเงียบสงัดไปทั่ววนาเวศ เดินดัง สญฺชยนรินฺโท ส่วนสมเด็จพระเจ้ากรุงสญชัยนราธิเบศบรมบิดา ก็ตรัสถามถึงมรรคมรรคาอันประดับ มุขมยตรีก็กราบทูลว่า เสร็จสรรพโดยพระราชประสงค์ ขออัญเชิญพระยอดขัตติยวงศ์มกุฎเกศ เสด็จดำเนินพลนิวัตินิเวศน์เวียงชัย ท้าวเธอก็สั่งให้ไปทูลแด่พระเอกอัครดนัยหน่อกษัตริย์ เภริญฺจาราเปตฺวา แล้วให้เอาพิชัยเภรีรัตน์ไปตีประกาศ แก่หมู่จตุรงคประชาราษฎร์สิ้นทั้งปวง กำหนดจะยกพยุหะทัพหลวงคืนเข้ากรุงไกร พระพิชัยสีพีมหาบุรีนั้นแล
ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห
ปฏิยตฺโต ราชมคฺโค ฯลฯ สิวีนํ รฏฺฐวฑฺฒเนติ
(7) เดิน ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ผู้ทรงจตุปาริสุทธศีลวิเศษ ราชมคฺโค อันว่าถ่องแถวสถลวิถีทุเรศราชมรรคา ปฏิยตฺโต อันบุคคลตกแต่งประดับประดาดูมโหฬาร ดุจวันวิสาขบูชากาลนักขัตมงคล เป็นต้นว่าทุบปราบให้ราบรื่น เอาทรายรายเรี่ยพื้นสะอ้านสะอาด วิจิตฺโต วิจิตรไปด้วยธงฉัตรกัทลีมาศมีนี่ต่างๆ ตั้งราชวัติทั้งสองข้างทางเป็นระยะไป อีกทั้งหม้อน้ำและหม้อดอกไม้มีพรรณนานา ปุปฺผสนฺถโต ดาษไปด้วยกุสุมมาลาสรรพสิ่งวิเศษ ทุพฺพปุปฺผญฺจ คือดอกหญ้าแพรก และข้าวสารสุทธเศวต กับเมล็ดพรรณผักกาด สุมนเมว อีกทั้งสุมนบุบผาชาติโอฬาร ลาชปญฺจ มานิ มีข้าวตอกเป็นคำรบห้าประการพอครบสิ่ง จักได้ชื่อว่าเป็นของบูชาอันยิ่งอย่างบุรพประเพณี โปรยปรายไปในราชวิถีทั่วทั้งปวง ประมาณมรรคประเทศทางหลวงได้หกสิบโยชน์เป็นกำหนด ตั้งแต่วงกตบรรพตตราบเท่าถึงพระนคร ขึ้น ฉ ขตฺติยา ส่วนสมเด็จบรมอดิศรทั้งหกกษัตริย์ ก็ทรงวิภูษิตรัตนอลังการ แล้วต่างๆ ก็เสด็จทรงคเชนทราธารพระที่นั่งต้น อันประดับด้วยหัตถาภรณ์เลิศล้นล้วนกนกมณี ตโต สฏฺฐีสหสฺสานิ ลำดับนั้นหมู่สหชาตมนตรีทั้งหกหมื่น อันเกิดร่วมวันทันคืนกับบรมนเรศ โยธิโน ล้วนแต่ทรงสุรศักดาเดชในยุทธสงคราม จารุทสฺสนา มีกายอันดูงามไปด้วยเครื่องประดับควรจะจับใจ ถืออาวุธแกว่งไกวประจำกร ปริกรึสุ ก็แห่ห้อมพระจอมพิภพเชตุดรดูเดียรดาษ โอโรธา จ กุมารา จ ส่วนแสนสุรางค์อนงค์นาฏนิกรกัญญา กับทั้งขัตติยกุมาราเหล่าประยูรวงศ์ ต่างๆ ก็ขึ้นสู่อลงกตสีวิกามาศ ทั้งรถรัตน์อัศวราชชาติกุญชร โดยตำแหน่งฐานันดรแห่งตนและตน เวสิยานา จ พฺราหฺมณา กับทั้งพราหมณ์อันชำนาญมนต์ในไตรเวท และพ่อค้าพาณิชเพศสิ้นทั้งปวง ก็โดยเสด็จในกระบวนทัพหลวงพยุหยาตรา
ย้าย หตฺถาโรหา พวกพลคชโยธี ขึ้นขับขี่กุญชรนิกร นับตัวคเชนทรได้ละสี่คน จตุลังคบาทพลรักษาเท้า เท้าละสองประสมเข้าเป็นแปดนาย นับทั้งคนคอกลางท้ายอีกสี่ กำหนดหนึ่งหัตถีมีสิบสองคน สามหัตถีสิริพลสามสิบหกยกพยุหบาตรา
อนิกฏฺฐา พลอาชาชาติพาชี อัศวโยธีขึ้นขี่ขับ อีกชนสำหรับรักษาบาทอาชาข้างละคน อาชาหนึ่งนับพลได้สามนาย ตามกันผันผายสามอาชา สิริโยธาเก้าคนจัดเป็นอัสสานิกพหลหนึ่งซึ่งตรวจตรา แต่งตามอัศวโยธาพยุหสงคราม
รถิกา พลรถงอนงามเยียระยง เสนารถขึ้นดำรงบนบัลลังก์ เป็นสองกับสารถีนั่งเบื้องหน้า ขับอาชาเยื้องย่าง อีกทหารสองข้างสองคนพลรักษารถ เป็นสี่สิ้นทั้งหมดรถหนึ่งมี สามรถทวาทศโยธีขบวน จัดเป็นรถานิกถ้วนกระบวนหนึ่งซึ่งตกแต่ง ตามตำแหน่งรถพยุหยาตรา
ปตฺติกา หนึ่งพลโยธาเดินเท้า ไต่เต้าตามกันชั้นละสี่ จัดเป็นองค์ปัตตานิกโยธีหมู่หนึ่งพึงคณนา นับพลหัยรถคชโยธาเดินเท้า สิ้นทั้งสี่เหล่าเข้าขบวน คิดเป็นทวยหาญหกสิบถ้วน กระบวนหนึ่งซึ่งไตรตรวจ เป็นหมู่หมวดโดยนิยมดังนี้ สิริดุรงครถคชหัตถี สิ่งละหมื่นสี่สี่พรรณ ปันออกเป็นสามกระบวน คิดเป็นทวยหาญหกหมื่น หกพันหกร้อยหกสิบหกจำนวนจำแนกกอง เศษเหลือสิ่งละสองสิ้นทั้งสามเหล่า
การกา หนึ่งพวกพลชาวงานไต่เต้าตามพยุหทัพ ทั้งห้าหมู่มีพร้อมสรรพทุกๆ คณะ คือช่างไม้ช่างทองจัดเป็นหมู่หนึ่งซึ่งประจำกอง มีคนงานเป็นคำรบสองก็สี่อย่าง คือช่างหม้อช่างชุนช่างทอหูก ช่างฉลาดร้อยกรองผูกพู่พันบุบผา หมู่สามพวกอุสุการากระทำธนู และหมู่ช่างย้อมพร้อมพลชาวงาน มีจอบเสียมสำหรับการขุดบ่อสระ ปะที่ขัดสนชลวารี หมู่คำรบสี่ล้วนช่างกัลบกและช่างวาด กับช่างสานเสื่อสาดกวาดเทหยากเยื่อเชื้อชานดอกไม้ อีกช่างเหล็กช่างกลึงไปในกองทัพ หมู่ห้ามีพร้อมสรรพทุกๆ คณะ คือช่างหนังช่างกระทำรถ ครบจำนวนถ้วนหมดอยู่ทุกกอง เสียงสินธพดุรงค์ร้องหฤหรรษ์ เสียงกเรนทรคำรนสนั่นเนียรนาทดง เสียงรถผัดผันกงสะเทือนสะท้าน เสียงพลโยธาหาญโห่ร้องก้องกึกในกลางป่า
ย้าย หตฺถาโรหา พวกพลคเชนทร์เชี่ยวชาญ ขับขี่สารดูนี่องอาจ อนีกฏฺฐา พลอาชาชาติเรี่ยวแรง ล้วนแต่เข้มแข็งว่องไว รถิกา พลรถเรียงไสวแลเป็นทิว ธงชายปลิวปัดปลายงอน ปตฺติการกา พลบทจรดูนี่ก็เหี้ยมหาญ ล้วนชำนิชำนาญในการศึก หมู่พหลจตุรงค์พิลึกแลทั้งสี่เหล่า งามเพริศเพราไปด้วยเครื่องประดับ สรรพสรรพางคพิลาส กโรฏิยา สวมหมวกมาศพื้นทอง ใส่เกราะกรองเสื้อหนัง อาจป้องกำบังสรรพอาวุธ เครื่องพิชัยยุทธณรงค์ ลิลฺลิหตฺถา มีมืออันทรงศรธนู ชูโล่ดั้งและดาบเขน เป็นขนัดแน่นแสนเสโลห์ โตมรกุทัณฑ์ทวน ตามกระบวนยุทธพยุหบาตร ล้วนแต่สามารถมหึมา อาจง้างเอางาคชเมามัน มิได้ถอยหนีกันด้วยกล้าแข็ง ต่างๆ ก็ถืออาวุธกวัดแกว่งสำแดงเดช ปุรโต ปฏิปชฺชึสุ ก็แห่เสด็จบรมขัตติยาธิเบศรเป็นกระบวนหน้า คงเดิม เนคมา จ สมาคตา ฝ่ายฝูงประชาชาวนิคมชนบท ก็ตามแวดล้อมพระจอมประยูรยศยอดขัตติยวงศ์ ท้าวเธอก็ให้ขยายเขยื้อนพยุหจัตุรงคราชโยธี มาโดยลำดับสถลวิถีแถวเถื่อนทุเรศ ประทับร้อนแรมในหิมเวศตามระยะทาง ให้เดินนิกรแสนเสนางค์แต่วันละโยชน์เป็นกำหนด พลางชมพนมพนัสบรรพตพฤกษาคณา ทั้งห้วยละหานเหวผาศิลาลาด เสนาะเสียงปักษาทิชาชาติร้องระงมไพร ทั้งเสียงจักจั่นพรรณเรไรระรี่เรื่อย ฟังนี้ก็ฉ่ำเฉื่อยชื่นอาวรณ์ หกกษัตริย์เสด็จโดยพนาดรดูมโหฬาร ด้วยแสน สุรังคพลาหาญแหนแห่แลพิลึก สนั่นเสียงหัยรถคชก้องกึกในกลางดง สฏฺฐีโยชนมคฺคํ สิ้นมรรคาลัยไพรระหงหกสิบโยชน์โดยนิยมมา เดิน ถ้าจะนับแต่วันบรรพชากำหนดนาน ถึงเจ็ดเดือนจึงได้พระราชทานสองกษัตริย์ ชูชกพารีบรัดมาโดยมรรคา สิบห้าวันจึ่งถึงพระพาราเชตุดร แต่ตระเตรียมพลนิกรอยู่เจ็ดวัน จึงได้ยกไปยังเขตขัณฑ์คิริยวงกต กว่าจะบรรลุพระอาศรมบทถึงเดือนหนึ่งกับยี่สิบสามราตรี แต่ยับยั้งอยู่ในพนาลีได้เดือนเศษ จึงได้ยกพลนิวัตน์นิเวศน์เวียงชัย สองเดือนจึ่งถึงกรุงไกรพระพิชัยสีพี สิริเป็นปีหนึ่งกับสิบห้าราตรีไม่เคลื่อนคลา จึงคืนเข้าพระพารานี้แล้วแล
ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห
เต ปาวึสุ ปุรํ รมฺมํ ฯลฯ สีวินํ รฏฺฐวฑฺฒเนติ
(8) เดิน ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ผู้ทรงศีลสังวรอินทรีย์ เต ขตฺติยา อันว่าบรมนราธิบดีทั้งหกกษัตริย์ เสด็จถึงบุรีรัตนสีพีราฐ พหุปาการโตรณํ อันประกอบด้วยซุ้มทวารกาญจนามาศอยู่เรียงราย ทั้งปราการป้อมค่ายนี่ก็มั่นคง ดูนี่ก็สูงทรงเงื้อมตระหง่านงาม อาจป้องกันสรรพสงครามหมู่อมิตรราชปรปักษ์ อุเปตํ อนฺนปาเนหิ บริบูรณ์ด้วยอเนกนานัครรสโภชน์ ทั้งอัฏฐบานเอมโอชอันอุดม นจฺจคีเตหิ จูภยํ กับสิ่งทั้งสองประเสริฐสมสำหรับนคร คือดุริยางค์ขับฟ้อนแสนสุขบันเทิง เป็นที่เกษมสำเริงราษฎรประชาชาวพิชัยเชต หกกษัตริย์ก็เสด็จประเวศราชธานี พรั่งพร้อมด้วยแสนสุรชาติโยธีอันแห่แหน ตามท้องถนนแน่นอยู่เนืองอนันต์ ขึ้น จิตฺตา ชานปทา อาสุ ํ ฝูงประชาชนก็ประชุมชวนกันสิ้นทั้งปวง มานั่งเบียดเสียดทั้งสองข้างถนนหลวงอยู่แออัด ต่างคนก็โสมนัสยินดี คอยรับเสด็จพระยอดขัตติยาภิเษกศรีสมมติวงศ์ อันอาจให้สรรพสิ่งประสงค์ทรัพย์โภไคย เจลุกฺเขโป ปวตฺตถ บ้างก็เปลื้องผ้าห่มทำเป็นธงชัยขึ้นโบกโบยเหนือเศียรเกล้า บูชาสมเด็จพระลูกเจ้าจอมกษัตริย์ ต่างๆ ก็อวยสิริสวัสดิ์ถวายพร ท้าวเธอก็เสด็จขึ้นสู่คฤหรัตนอลงกรณ์กาญจนพิมาน ประดับด้วยมไหศุริยศฤงคารควรจะเปรมปรีดิ์ เสด็จเสวยอุฬาริกราชกามสมังคีศรีสุขุมสุขแสนสารภิรมย์ อันยิ่งด้วยพระยศอุดมดูวิลาศ เดิน นนฺทึ ปเวสิ จึ่งให้เอานันทิเภรีตีประกาศ แก่ประชาราษฎร์ชาวพระนคร ให้ปล่อยสัตว์นิกรที่กักขัง โดยต่ำมีกำหนดตั้งแต่วิฬาร์ อย่ากักขังไว้ให้ได้ทุกขเวทนาเร่งปล่อยไป ปจฺจูสกาเล ครั้นเมื่อราตรีภาคปัจจุสมัย จึงทรงพระปริวิตกว่า เสฺว เวลาพรุ่งนี้นี่ฝูงยาจกสิ้นทั้งปวง แจ้งว่าอาตมเสด็จคืนยังเมืองหลวงจะชวนกันปรีดา ต่างๆ ก็จะแตกตื่นกันมาคอยรับพระราชทาน จะพูนเพิ่มบวรกฤษฎาภินิหารมหาบริจาค เออไฉนจะได้ทรัพย์อันใดโดยมากมาแจกจ่าย ให้อิ่มในพระกมลที่มุ่งหมายในครั้งนี้ ขึ้น ตสฺมึ ขเณ ขณะนั้นก็ร้อนถึงอาสน์โกสีย์ศักรเทวราช จึ่งยังห่าฝนสัตตรัตนามาศมีพรรณนานา คือสุวรรณหิรัญมุกดาเวฑุริยจำรัส ทั้งวิเชียรมณีรัตนประพาฬ ก็ครบเจ็ดประการสรรพวิเศษ ให้ตกเต็มสกลนคเรศทั่วทุกลำเนา ชาณุมตฺตํ ลึกประมาณเพียงเข่าควรจะยินดี แต่ในบริเวณจังหวัดรัตนปราสาทศรีท่วมถึงสะเอวดูอัศจรรย์ จึงป่าวประกาศให้ราษฎรชวนกันมาคุ้ยขน เป็นของประชาชนตามคามเขต เหลือนั้นให้ขนเข้าในนิเวศน์ท้องพระคลังหลวง ฝูงชนทั้งปวงก็ชวนกันชื่นบาน ทานมุเข ปฏฺฐเปสิ ท้าวเธอก็ตั้งบำเพ็ญพระบรมโพธิสมภารทานบารมี โดยพุทธางกูรประเพณีนั้นแล
ตโต เวสฺสนฺตโร ราชา ทานํ ทตฺวาน ขตฺติโย
กายสฺส เภทา สปฺปญฺโญ สคฺคํ โส อุปปชฺชถาติ
(9) เดิน เวสฺสนฺตโร ราชา อันว่าสมเด็จบรมขัติยาธิบดินทร์ อสัมภินวงศ์เวสสันดรมหาราช สปฺปญฺโญ ทรงพระปรีชาฉลาดในที่จะบำเพ็ญทาน ทานํ ทตฺวาน ทรงสืบสร้างพระบวรกฤษฎาภินิหารทานบริจาค อันมากบริบูรณ์แก่พระอัธยาศัย ตราบเท่ากำหนดพระชนมชีพได้ร้อยยี่สิบพระวรรษา กายสฺส เภทา ก็ทำลายเบญจุปาทานักขันธ์สวรรคต ขึ้นไปอุบัติปรากฏเป็นสันดุสิตเทวราช เสวยทิพยสมบัติในรัตนพิมานมาศเมืองสวรรค์ ชั้นดุสิตเทวพิภพ
(10) ทำนองธรรมวัตรกลาย สตฺถา อิมํ คาถาสหสฺสปฏิมณฺฑิตํ มหาเวสฺสนฺตรธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สมเด็จพระบรมนราสภศาสดาจารย์ มีพระพุทธบรรหารบัณฑูรพระธรรมเทศนา ซึ่งมหาเวสสันตรชาดกอันประดับด้วยพระคาถาพันหนึ่งจบลงแล้ว ก็มีพระพุทธดำรัสว่า ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ทั้งปวง อันห้วงแห่งมหาเมฆพลาหก ให้ตกซึ่งห่าฝนโบกขรพรรษปวัตตนาการลง ในตำแหน่งบวรพันธุพงศ์สมาคมแต่ในกาลก่อน ครั้นพระตถาคตเสวยพระชาติเป็นบรมขัตติยเพสสันดรด้วยประการดังนี้ ทำนองธรรมวัตรแท้ ตโต สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ลำดับนั้นสมเด็จพระชินสีห์ก็มีพระพุทธภาษิตสำแดงพระจตุราริยสัจจธรรมทั้งสี่ มีทุกขสัจจ์ เป็นต้นมีมรรคสัจจ์เป็นอวสานที่สุด เมื่อจบพระพุทธเทศนาแล้วก็ประมวลมาซึ่งอดีตชาดกยกเป็นอวสานคาถาว่า ชูชโก พฺราหฺมโณ ลุทฺโท ดูกรสงฆ์ อันว่าชูชกชีชราลุททชาติฉกรรจ์กาจ กลับชาติมา คือพระเทวทัตต์ยโสธรราชอนุชา อมิตฺตตาปนา นางอมิตตดาพราหมณีนั้น สืบขันธประวัติมา คือนางจิญจมาณวิกาอันเป็นติตถิย สาวิกา เจตฺปุตฺโต อันว่านายเจตบุตรมิคลุททพรานป่านั้น สืบขันธประวัติมาคือพระฉันนเถระ อันเป็นสหชาติกับพระตถาคต อจฺจุตตาปโส พระอัจจุตดาบสนั้น สืบขันธประวัติมา คือพระอัครทักษิณสาวกธรรมเสนาบดี สกฺโก สมเด็จวชิรปาณีสุราธิบดีเทวราช กลับชาติมา คือพระมหาเถระอนุรุทธ วิสฺสุกมฺโม พระเวสสุกรรมเทพบุตรนั้น สืบขันธประวัติมาคือพระมหาโมคคัลลานะอุตตรอัครสาวก ผู้ยกเอตทัคคะฝ่ายอิทธิฤทธิ์อภิญญา มคฺครุมฺหิ สีโห ราชา เทพดาที่นฤมิตเป็นพญาไกรสรสีหราช กลับชาติมา คือพระอุบาลีมหาขีณาสพ เทพดาที่แสร้งสรรค์สรีราพยพเป็นพยัคฆราช กลับชาติมา คือพระมหาอริยสงฆ์สิมพลี เทพดาที่ประวัติกายินทรีย์เป็นทีปิราช กลับชาติมา คือพระจุลนาคมหาเถระ ทารเก รกฺขติ เทโว เทพดาที่นิรมิตเป็นพระบรมพุทธางกูรเพสสันดรราชดาบส มาอภิบาลสองสุริยราโชรสในมัคคันดรประเทศนั้น สืบขันธประวัติมา คือพระมหา กัจจายนะนราสภสาวก นางเทพธิดาที่นฤมิตเป็นพระมัทรีมารักษาสองขัตติยโปดกนั้น สืบขันธ ประวัติมา คือนางวิสาขามหาทายิกาบริจาค ปจฺจยนาโค วารโณ พระยาเศวตคเชนทรปัจจัยนาคนั้น สืบขันธประวัติมา คือพระมหาอริยกัสสปสังฆวุฒาจารย์ กเรณุกา สจารินี นางกเรณุเศวตสาร ผู้เป็นมารดาพระยาปัจจัยนาคนั้น สืบขันธประวัติมา คือนางกีสาโคตมีสากิยวงศ์ มทฺทราชา สมเด็จบรมกษัตริย์มัททราชบิตุรงค์แห่งพระมัทรีนั้น สืบขันธประวัติมา คือพระยามหานามสักยราช อพฺภนฺตเร มหามจฺโจ อันว่าอำมาตย์ผู้เป็นนายนักการ นำข่าวสาส์นอันเดือดร้อนไปกราบทูลแด่สมเด็จพระเวสสันดรนั้น สืบขันธประวัติมา คือพระอานนทเถระพุทธอุปัฏฐาก ทานเวยฺยาวจฺ-จามจฺโจ อำมาตย์ผู้ได้จัดแจงการบริจาคสัตสดกมหาทาน ประวัติสืบสันดานมา คืออนาถบิณฑิกะมหาเศรษฐี สญฺชโย สมเด็จพระเจ้ากรุงสญชัยชนกาธิบดีนั้น สืบขันธประวัติมา คือสมเด็จบรมพุทธบิดาสุทโธทนมหาราช ผุสตี เทวี พระผุสดีชนนีนาฏนั้น สืบขันธ์ประวัติมา คือสมเด็จพระสิริมหามายาเทพบุตรพุทธชนนี พระมัทรีราชเทวีนั้น สืบขันธ์ประวัติมาคือพระนางยโสธราพิมพา ผู้เป็นมารดาพระราหุล ชาลีกุมาโร พระชาลีดรุณขัตติยกุมารประวัติสืบสันดานมา คือพระราหุล ชิโนรสาธิราช พระนางกัณหาชินานาฏนั้นสืบขันธประวัติมา คือนางอุบลวรรณาเถรี ปริสา สหชาตา จ อันว่าสหชาตโยธีทั้งหกหมื่นนั้น สืบขันธ์ประวัติมา คือคณานิกรพุทธเวไนยทั้งหลายนี้ เวสฺสนฺตโร สมเด็จพระเวสสันดรนราธิบดีนั้น สืบขันธประวัติมา อหํ เอว คือองค์พระตถาคตอันบรรลุโลกุตมาภิเษกสัมโพธิบารมี สิริฆโณ ทรงซึ่งสิริโสภาคย์ฉัพพิธพรรณรังสีพระรัศมีทึบทั้งแท่ง มีพยามประภามณฑลโดยรอบข้างละวา สพฺพญฺญู ตรัสรู้ซึ่งนานาเนกวิธธรรมทั้งปวงทั่วไปในอัทธานะทั้งสาม คืออดีตกาล อนาคตกาล และปัจจุบันกาล สมฺมาสมฺพุทโธ ตรัสรู้พุทธาภิเษกสัมโพธิญาณ ด้วยพระองค์มีอาการอันมิได้วิปริต ธาเรถ ชาตกํ ดูกรจตุรพิธบรรพษัททั้งปวง จงตั้งโสตประสาทสดับซึ่งพระมหาเวสสันดรชาดกแล้ว พึงมนสิการกำหนดไว้โดยนัยพุทธภาษิตกถา อันพระตถาคตบัณฑูรพระธรรมเทศนามาฉะนี้
นครกณฺฑํ นิฏฺฐิตํ
ประดับด้วยพระคาถา ๔๘ พระคาถา
เอวํ ก็มีด้วยประการดังนี้แล ฯ
(ปี่พาทย์ทำเพลงกลองโยน)